ข้อคิดฝากไว้ ในการจัดเก็บรายได้
25/2/2557 16.00 น.
(ว่างจากการออกเคลื่อนที่)
หลายครั้งที่ผมเห็นเพื่อนจัดเก็บรายได้ พยายามจะเก็บภาษี จากสิ่งก่อสร้าง ป้าย ที่ดิน ที่แปลกประหลาดโผล่เข้ามาในเขตปกครองของตัวเอง เราจะพยายามมองให้มันเขามาอยู่ในระบบภาษีเราทันที
ซึ่งลักษณะอย่างนี้ คำสมัยใหม่ที่ใช้กัน ก็คือ ตีความขยายขอบเขตอำนาจของตัวเอง ที่ได้รับจาก พรบ.ที่ถือปฏิบัติอยู่ในมือ ทั้งที่ไม่มีอำนาจ
ผมจึงอยากฝาก ก่อนที่เราจะคิดว่าอะไรเสียภาษี อะไรไม่เสีย ให้เราทำใจให้เป็นธรรมแก่ผู้เสียภาษี เราต้องรู้หลักแห่งการตีความกฎหมายภาษีอากร ซึ่งมีหลักเกณฑ์ดังนี้
(1) ต้องตีความโดยเคร่งครัด ในทางที่ไม่เป็นโทษแก่ผู้เสียภาษี เอกสารอ้างอิงเช่น
-คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1908/2538 (เรื่องหนี้ค้างของสามี)
-คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6652/2542 (เรื่องสามีไม่มีเงินได้)
***ตัวอย่าง ที่เรามักทำหรือถามกัน ก็เช่น “ค่ารายปี” หมายความว่า จำนวนเงินซึ่งทรัพย์สินนั้นสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่งๆ แต่เราชอบไปเอาค่าอะไร ก็ไม่รู้มาคิดเป็นค่ารายปี ทั้งๆที่กฎหมายก็กำหนดไว้ชัดเจนแล้ว
(2) บทกฎหมายไม่ชัดเจน จะต้องตีความไปในทางที่ เป็นคุณหรือเป็นประโยชน์แก่ผู้เสียภาษี เอกสารอ้างอิงเช่น
-คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2531 (เรื่องค่าโอนสิทธิการเช่า)
***ตัวอย่าง ที่เรามักทำหรือถามกัน ก็เช่น เก็บเงินปักเศษหรือไม่ปัด ถ้าตีความอย่างเคร่งครัด คุณก็จะรู้คำตอบว่า ควรปัดเศษหรือไม่
(3) ต้องคำนึงถึงเจตนารมณ์ ของฝ่ายนิติบัญญัติในการบัญญัติกฎหมาย เอกสารอ้างอิงเช่น
-คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4687/2540 (ประชุมใหญ่) (เรื่องขอคืนอากรแสตมป์)
***ตัวอย่าง ที่เรามักทำหรือถามกัน ก็เช่น ป้าย เจตนาของ พรบ.ป้าย ที่ให้มีการเก็บภาษีป้ายทุกชนิดทุกประเภท และไม่ได้กำหนดให้มีป้ายชั่วคราว เพราะต้องการควบคุมปริมาณป้ายไม่มีมาก จนเป็นบ้านเมืองดูเลอะเทอะหรืออันตรายแก่ผู้คน ซึ่งปัจจุบันป้ายเรามีมากจนเกินการควบคุมไปแล้ว
(4) ต้องคำนึงถึงหลักความเป็นเอกเทศของกฎหมายภาษีอากร เอกสารอ้างอิงเช่น
-คำว่า “ขาย” ตามมาตรา 91/1(4)
“ขาย” หมายถึงรวมถึงสัญญาจะขาย ขายฝาก แลกเปลี่ยน ให้ ให้เช่าซื้อ หรือจำหน่ายจ่ายโอน ไม่ว่าจะมีประโยชน์ตอบแทนหรือไม่
-คำว่า “บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล” ตามมาตรา 39
***ตัวอย่าง ที่เรามักทำหรือถามกัน ก็เช่น การจ่ายค่าปรับ เราจะเห็นได้ว่า พรบ.ป้ายกับ พรบ.บำรุงท้องที่ ได้ระบุไว้ชัดเจนให้ นายกฯ เป็นผู้มีอำนาจในการปรับ (เงินเพิ่ม)กรณีไม่ยื่นแบบภายในกำหนด อย่างนี้เราเอกเทศของกฎหมาย แต่ พรบ.โรงเรือนฯ ไม่ได้ระบุไว้ เราจึงเก็บค่าปรับ(เงินเพิ่ม) เองไม่ได้ ต้องให้เจ้าพนักงานสอบสวน(นายอำเภอ) เป็นผู้ปรับให้
ผมว่างานเก่าจัดเก็บเราก็เยอะอยู่แล้วนะครับ ทำไมเราถึงพยายามขยายขอบเขตอำนาจของตัวเอง เพื่อให้มีงานเพิ่มขึ้น ละครับ เราควรมองด้วยความเป็นธรรมแก่ประชาชนให้มากขึ้นนะครับ อย่าคิดเพียงแต่หารายได้อย่างเดียว
อะไรที่มันยังไม่มีคำตัดสินอย่างเป็นที่สุด จากผู้รับผิดชอบโดยตรง เช่น ผู้ว่าฯ/กรม/ปลัดกระทรวง/รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ/ศาล ก็ควรจะพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าควรทำหรือนำมาเป็นงานของเราหรือไม่
งานที่ทำอยู่ถูกต้องสมบูรณ์หรือยัง ถ้ายังผิดอยู่ ยังจะหาเรื่องผิดเข้ามาใส่ตัวอีกหรือครับ
อย่าโกรธกันนะครับ ถ้าเรื่องที่เล่านี้มันทำให้ท่านรู้สึกเหมือนว่า ผมกำลังพยายามทำให้จัดเก็บเราไม่พัฒนาคิดค้นอะไรใหม่ๆ ผมเพียงแค่ฝากข้อคิดว่าอะไรใหม่ที่เรากำลังพยายามพัฒนา ต้องมาจากฐานแห่งกฎหมายและความชอบธรรม ครับ
ด้วยความหวังดี
นายยุทธศักดิ์ พบลาภ
(Admin Jojo Zeer)
ประธานชมรมนักจัดเก็บรายได้
องค์กรปกครองท้องถิ่นแห่งประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น